พรสวรรค์ในที่นี้ไม่ใช่ในความหมายของอัจฉริยะภาพที่หาได้ยากในโลก เช่น เด็กที่มีระดับความเฉลียวฉลาด (IQ) เกิน 180 หรือเด็กที่มีความสามารถในการพูดภาษาต่างชาติได้ 3-4 ภาษาแบบเป็นเรื่องเป็นราวตั้งแต่อายุ 6 ขวบอะไรทำนองนั้น แต่หมายถึงความสามารถที่มักถูกนำมาใช้อ้างว่าตนขาดหายไป (อย่างไม่เป็นธรรม) เมื่อต้องเทียบกับคนอื่นที่สามารถทำได้ เช่น ความสามารถในการปราศรัยหรือบรรยายในมหาสมาคมหรือต่อหน้าคนเป็นร้อย ในสถานการณ์เช่นว่านี้ สิ่งที่ผู้พูดต้องการไม่ใช่มีแต่เพียงความกล้าหรือความเชื่อมั่นในตนเอง แต่ยังรวมถึงความสามารถในการสื่อสารข้อความที่มีความชัดเจน เห็นภาพ และปลุกเร้าให้ผู้ฟังมีความคิดคล้อยตาม ถ้าผมจะบอกว่าสิ่งที่พูดมานี้เป็นเรื่องที่เรียนรู้กันได้ หลายคนก็ว่าเป็นไปไม่ได้ หลายคนยังเชื่ออย่างมั่นคงไม่เคยเปลี่ยนแปลงว่าคุณสมบัติหรือความสามารถที่ว่านี้เป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ถึงจะเรียนรู้ก็แสดงออกได้ไม่เป็นธรรมชาติ ไม่จูงใจ
แท้จริงแล้ว พรสวรรค์ที่มักนำมากล่าวอ้างกันนั้น อาจเป็นความสามารถที่คนบางคนได้เปรียบกว่าคนอื่น เป็นเรื่องที่บังเอิญเข้ากับจริตของคน ๆ นั้นทำให้ดูว่าเขาช่างพริ้วเสียเหลือเกิน แต่พรสวรรค์ก็เป็นทักษะที่เรียนรู้กันได้ด้วยการหมั่นฝึกปฏิบัติ มีเทคนิคหนึ่งที่เรียกว่า Charismatic Leadership Tactics (CLT) ซึ่งได้รับการยืนยันจากผลงานวิจัยแล้วว่าสามารถทำให้ผู้เรียนรู้กลายเป็นผู้นำซึ่งเป็นที่ยอมรับ มีความน่าเชื่อถือ และมีความเป็นผู้นำมากขึ้นในสายตาของคนอื่น ๆ ผู้ที่ต้องการให้เกิดผลสำเร็จอย่างที่กล่าวมานี้จะต้องศึกษาเทคนิค CLT นำไป ฝึกฝนปฏิบัติอย่างจริงจังสม่ำเสมอ และมีกลยุทธ์ในการนำไปใช้อย่างถูกต้อง
1. ใช้การเชื่อมโยง เปรียบเทียบ และสำนวนขัดแย้ง (Connect, Compare, and Contrast)
ผู้นำที่ชนะใจคนจะต้องสามารถสื่อสารข้อความของตนไปให้แก่ผู้ฟังได้เข้าใจและจดจำ การอุปมาอุปมัยเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย การเล่าเรื่องก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สร้างความเชื่อมโยงเข้าถึงผู้ฟังได้ แม้คนที่ไม่ได้เกิดมาเป็นนักเล่าเรื่องก็สามารถใช้เรื่องที่น่าสนใจให้บรรลุเป้าหมายนี้ได้ นอกจากสองวิธีนี้แล้ว การใช้สำนวนแบบขัดแย้งก็เป็นวิธีที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เคนเนดี้เป็นผู้หนึ่งที่ใช้วิธีนี้อย่างได้ผลด้วยคำกล่าวที่ว่า อย่าถามว่าประเทศจะให้อะไรแก่ท่าน แต่จงถามตนเองว่าจะให้อะไรแก่ประเทศ
2. สร้างความรู้สึกผูกพัน และความชัดแจ้ง (Engage and Distill)
เราสามารถสร้างความรู้สึกผูกพันได้ด้วยการตั้งคำถามที่สะกิดเข้าไปกลางใจคน โค้ชกีฬามักใช้วิธีนี้ในการกระตุ้นนักกีฬาในระหว่างแข่งขันให้เกิดความรู้สึกมุ่งมั่นที่จะให้ได้ชัยชนะ คำถามพื้นฐาน เช่น เราจะยอมรับความรู้สึกผิดหวังเมื่อเสร็จการแข่งขันนี้ได้ง่ายนักหรือ ก็ทำให้คนสู้ไม่ถอยมาเยอะแล้ว การใช้หลักสามข้อก็เป็นอีกเทคนิคที่ใช้กันแพร่หลาย เหตุผลที่ต้องสามข้อก็เพราะมันไม่มากหรือน้อยจนเกินไป จำง่าย และสามารถพลิกแพลงได้หลากหลาย เช่นอาจแบ่งออกเป็น อดีต ปัจจุบัน อนาคต หรืออาจแบ่งเป็นระยะการดำเนินงาน เช่นขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นปลาย หรืออาจแบ่งออกตามขนาดของเป้าหมาย เช่น ใหญ่ กลาง เล็ก ที่สำคัญคือหลังจากการสร้างแนวคิดตามหลักข้อหนึ่งด้วยการอุปมาอุปมัยเพื่อทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายแล้ว ขั้นต่อไปคือต้องสร้างความชัดเจนให้เกิดขึ้นและทำให้กลุ่มเป้าหมายของเราเกิดความเชื่อมั่นในความสำเร็จให้ได้โดยใช้หลักสามข้อดังกล่าว
เราสามารถสร้างความรู้สึกผูกพันได้ด้วยการตั้งคำถามที่สะกิดเข้าไปกลางใจคน โค้ชกีฬามักใช้วิธีนี้ในการกระตุ้นนักกีฬาในระหว่างแข่งขันให้เกิดความรู้สึกมุ่งมั่นที่จะให้ได้ชัยชนะ คำถามพื้นฐาน เช่น เราจะยอมรับความรู้สึกผิดหวังเมื่อเสร็จการแข่งขันนี้ได้ง่ายนักหรือ ก็ทำให้คนสู้ไม่ถอยมาเยอะแล้ว การใช้หลักสามข้อก็เป็นอีกเทคนิคที่ใช้กันแพร่หลาย เหตุผลที่ต้องสามข้อก็เพราะมันไม่มากหรือน้อยจนเกินไป จำง่าย และสามารถพลิกแพลงได้หลากหลาย เช่นอาจแบ่งออกเป็น อดีต ปัจจุบัน อนาคต หรืออาจแบ่งเป็นระยะการดำเนินงาน เช่นขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นปลาย หรืออาจแบ่งออกตามขนาดของเป้าหมาย เช่น ใหญ่ กลาง เล็ก ที่สำคัญคือหลังจากการสร้างแนวคิดตามหลักข้อหนึ่งด้วยการอุปมาอุปมัยเพื่อทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายแล้ว ขั้นต่อไปคือต้องสร้างความชัดเจนให้เกิดขึ้นและทำให้กลุ่มเป้าหมายของเราเกิดความเชื่อมั่นในความสำเร็จให้ได้โดยใช้หลักสามข้อดังกล่าว
3. สร้างความรู้สึกจริงใจและความฮึกเหิม (Show Integrity, Authority and Passion)
การใช้วาทะที่สะท้อนอารมณ์ของกลุ่มจะเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่ตัวคุณ เป็นการฉายบุคลิกภาพที่น่ายกย่องและความเป็นผู้นำได้อย่างดี การตั้งเป้าหมายที่สูงจนดูว่าเป็นไปไม่ได้ เช่น การปลดปล่อยประเทศอินเดียจากอังกฤษด้วยวิธีอหิงสาของคานธี หรือการที่ Machida ซึ่งเป็นอดีต CEO ของบริษัทชาร์ป กระตุ้นพนักงานงานของเขาเมื่อครั้งที่บริษัทได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมโทรทัศน์จากจอธรรมดามาเป็นจอ LCD จนเกือบต้องปิดกิจการด้วยวาทะที่ว่า ภายในปี 2005 โทรทัศน์ทุกเครื่องที่บริษัทชาร์ปขายในประเทศญี่ปุ่น จะใช้จอ LCD ล้วนเป็นคำที่กระตุกอารมณ์คนฟังให้รู้สึกทึ่งต่อความกล้าที่จะประกาศเป้าหมายเช่นนั้น พร้อมที่จะร่วมฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคไปด้วยกัน และที่แน่นอนก็คือการยกให้ผู้กล่าววาทะนั้นเป็นผู้นำ แต่การพูดด้วยวาทะกินใจแต่เพียงอย่างเดียวคงรั้งอารมณ์คนได้ไม่นาน การมีโครงการหรือแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
การใช้วาทะที่สะท้อนอารมณ์ของกลุ่มจะเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่ตัวคุณ เป็นการฉายบุคลิกภาพที่น่ายกย่องและความเป็นผู้นำได้อย่างดี การตั้งเป้าหมายที่สูงจนดูว่าเป็นไปไม่ได้ เช่น การปลดปล่อยประเทศอินเดียจากอังกฤษด้วยวิธีอหิงสาของคานธี หรือการที่ Machida ซึ่งเป็นอดีต CEO ของบริษัทชาร์ป กระตุ้นพนักงานงานของเขาเมื่อครั้งที่บริษัทได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมโทรทัศน์จากจอธรรมดามาเป็นจอ LCD จนเกือบต้องปิดกิจการด้วยวาทะที่ว่า ภายในปี 2005 โทรทัศน์ทุกเครื่องที่บริษัทชาร์ปขายในประเทศญี่ปุ่น จะใช้จอ LCD ล้วนเป็นคำที่กระตุกอารมณ์คนฟังให้รู้สึกทึ่งต่อความกล้าที่จะประกาศเป้าหมายเช่นนั้น พร้อมที่จะร่วมฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคไปด้วยกัน และที่แน่นอนก็คือการยกให้ผู้กล่าววาทะนั้นเป็นผู้นำ แต่การพูดด้วยวาทะกินใจแต่เพียงอย่างเดียวคงรั้งอารมณ์คนได้ไม่นาน การมีโครงการหรือแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
- Charismatic Leadership
- Leadership Practices
- Persuasive Speech (Alan Monroe)
- Strategy-as-Practice
- Transactional Leadership
- การใช้เรื่องเล่าประกอบการสื่อสาร
- คุณสมบัติและทักษะที่จำเป็นของผู้นำ
- พัฒนาการพูดในที่ชุมนุมชน
-----------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น