การฝึกอบรมขณะปฏิบัติงาน (On the Job Training) หรือเรียกให้สั้นกันว่า On Job Training (OJT) เป็นกระบวนการพื้นฐานในการพัฒนาบุคคลากร บางสถานประกอบการโดยเฉพาะสถานประกอบการขนาดเล็ก อาจมีการฝึกอบรมประเภทนี้อยู่เพียงอย่างเดียว โดยทั่วไปแล้ว เมื่อสถานประกอบการได้สำรวจหรือพบความจำเป็นที่ต้องให้การฝึกอบรม ก็จะนำความต้องการหรือเป้าหมายนั้นมาออกแบบโครงการฝึกอบรมอันประกอบด้วยเนื้อหาหลักสูตรและรูปแบบการให้การฝึกอบรม ปกติจะใช้การฝึกอบรมแบบชั้นเรียน (classroom training) เป็นการให้การฝึกอบรมระยะสั้นที่เน้นแนวคิดและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเป็นการปูพื้น และใช้การฝึกอบรมขณะปฏิบัติงานเป็นการสะสมความรู้ในระยะยาว
การฝึกอบรมขณะปฏิบัติงาน เป็นการให้พนักงานเรียนรู้งานไปพร้อมกับการปฏิบัติงาน พนักงานทุกคนตั้งแต่เสมียนพนักงานไปถึงผู้บริหารสูงสุดขององค์กรจะได้เรียนรู้การทำงานผ่านการฝึกอบรมประเภทนี้นับตั้งแต่เริ่มเข้าปฏิบัติงานในตำแหน่ง
การฝึกอบรมขณะปฏิบัติงานมีข้อดีหลายประการ ที่เห็นได้ชัดคือใช้ค่าใช้จ่ายน้อยเมื่อเทียบกับการฝึกอบรมประเภทอื่น พนักงานสามารถเรียนรู้ขณะที่ยังสร้างผลงานไปพร้อมกันโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มพิเศษ นอกจากนั้นการเรียนรู้ยังเกิดได้ง่ายเนื่องจากผู้เรียนเรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติและได้รับทราบผลการปฏิบัติของตนไปพร้อมกัน การฝึกอบรมขณะปฏิบัติงานให้มีประสิทธิผลนั้น ต้องมีอุปกรณ์เพื่อการเรียนรู้ที่เพียงพอ ผู้สอนงานจะต้องหมั่นพัฒนาตนเอง ไม่ติดยึดอยู่กับทักษะและความรู้แบบเก่าๆ ต้องรู้หลักการจูงใจพนักงานให้มีศรัทธาและความคาดหวังในตัวผู้สอนในระดับสูง จึงจะทำให้การเรียนรู้ประสบความสำเร็จ
1. ให้ผู้เรียนมีความผ่อนคลาย ไม่เครียด
2. อธิบายเหตุผลที่ผู้เรียนต้องได้รับการฝึกอบรม
3. ค้นหาว่าผู้เรียนได้เคยรู้อะไรมาบ้างในงานที่จะทำ
4. อธิบายขอบเขตงานทั้งหมดและเปรียบเทียบเชื่อมโยงกับสิ่งที่พนักงานเคยเรียนรู้มาก่อน
5. ให้พนักงานอยู่ในสภาพที่ใกล้เคียงกับการปฏิบัติงานจริงให้มากที่สุด
6. ให้พนักงานได้คุ้นเคยกับ อุปกรณ์ วัสดุ เครื่องมือ และการใช้แทนกัน
1. อธิบายผลงานที่คาดหวังทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ
2. ให้พนักงานปฏิบัติงาน ณ สถานที่ทำงานปกติ
3. ให้พนักงานปฏิบัติงานช้าๆ หลายๆ ครั้ง อธิบายขั้นตอนการทำงานทีละขั้นพร้อมทั้งอธิบายในส่วนที่ยุ่งยากหรือส่วนที่มักเกิดความผิดพลาดบ่อยครั้ง
4. ให้พนักงานปฏิบัติงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่รีบร้อนจนเกิดข้อผิดพลาด พร้อมชี้ให้เห็นว่าขั้นตอนใดเป็นขั้นตอนสำคัญ
5. ให้พนักงานอธิบายขั้นตอนการทำงานเพื่อยืนยันความเข้าใจไปพร้อมกับการปฏิบัติงาน
1. ให้ผู้เรียนทำงานไปตามกระบวนการทำงานหลายๆ ครั้งและอธิบายงานที่ทำแต่ละขั้นให้ผู้สอนทราบ หากมีความผิดพลาดต้องแก้ไขทันที และหากผู้สอนเห็นว่าจำเป็น ก็ให้ทำขั้นตอนที่มีความยุ่งยากซับซ้อนก่อนสัก 4-5 ครั้ง
2. ให้ผู้เรียนลองปฏิบัติงานที่ความเร็วปกติเพื่อเพิ่มพูนทักษะและความรวดเร็วในการทำงาน
3. เมื่อผู้เรียนแสดงให้เห็นว่าสามารถทำงานได้ ให้ผู้เรียนเริ่มงาน แต่ยังอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของผู้สอน
1. กำหนดตัวบุคคลที่พนักงานสามารถขอรับความช่วยเหลือเมื่อมีปัญหา
2. ค่อยๆ ลดการควบคุมโดยใช้การตรวจสอบผลงานเป็นระยะแทน
3. แก้ไขรูปแบบการทำงานที่ผิดพลาดก่อนที่จะกลายเป็นนิสัยการทำงานที่ผิด แสดงให้ผู้เรียนได้เห็นความแตกต่างระหว่างรูปแบบการทำงานที่ผิดกับที่ถูก
4. ให้รางวัลการปฏิบัติงานที่ดีและถูกต้อง
- Coaching Skills and Models
- On-the-Job Training
- Solution-Focused Coaching
- Theory of Transfer of Training
- Training Needs Assessment (TNA)
- การประเมินความต้องการและกำหนดวัตถุประสงค์การฝึกอบรม
-----------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น