วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564

17 Principles of Success [Napoleon Hill]


หลัก 17 ประการสู่ความสำเร็จ

          ในปี ค.ศ. 1908 Napoleon Hill ได้สัมภาษณ์ Andrew Carnegie หนึ่งในบุคคลผู้ทรงอิทธิพลและรวยมากที่สุดคนหนึ่งในวงการธุรกิจสมัยนั้น จากการสัมภาษณ์ Carnegie ได้มอบหมายเชิงท้าทายให้ Napoleon Hill ทำวิจัยและสัมภาษณ์บุคคลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด 500 คนในยุคนั้น เพื่อให้ได้คำตอบว่า อะไรคือหลักของความสำเร็จ

          Napoleon Hill นำผลจากการสัมภาษณ์และการวิจัยมาเขียนเป็นหนังสือชื่อ Law of Success และ Think and Grow Rich ซึ่งยังคงเป็นหนังสือขายดีมาจนถึงปัจจุบัน สำหรับ “หลัก 17 ประการเพื่อความสำเร็จ” นั้น เป็นแนวคิดที่ Napoleon Hill เขียนไว้ในหนังสือชื่อ Law of Success มีใจความโดยสรุปได้ดังนี้

1.  มีความมุ่งหมายที่ชัดเจน (Definiteness of Purpose)
          ความมุ่งหมายที่ชัดเจนเด็ดขาดถือเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จทุกอย่าง หากไม่มีความมุ่งหมายหรือแผนงาน บุคคลก็จะดำเนินชีวิตไปอย่างไร้ทิศทาง ความสำเร็จและความก้าวหน้าสู่จุดหมายในชีวิตของคุณ เริ่มด้วยการรู้ว่าคุณจะไปยังที่ใด เมื่อรู้จุดมุ่งหมายที่จะไปแล้ว คุณจะต้องใช้ความพยายามคิดหาแผนการและกระทำการซ้ำแล้วซ้ำอีกเพื่อให้ไปสู่จุดมุ่งหมายนั้น การมีทัศนคติเชิงบวกจะให้พลังในทุกสิ่งที่คุณทำ ทัศนคติเชิงบวกจะเสริมให้การกระทำและความคิดทั้งหลายมุ่งเข้าสู่จุดหมาย ตรงข้ามกับทัศนคติเชิงลบที่คอยจะบั่นทอนความพยายามของคุณให้เกิดการลังเล ห่วงหน้าพะวงหลัง จุดเริ่มต้นของความสำเร็จของมนุษย์จึงอยู่ที่การสร้างความมุ่งหมายหลักที่ชัดเจนขึ้นมาก่อนเพื่อให้รู้ว่าคุณต้องการทำอะไรให้สำเร็จ อะไรคือเป้าหมายที่อยากไปให้ถึง จะใช้แผนอะไรในการก้าวไปสู่ความสำเร็จนั้น ความมุ่งหมายที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ไม่ใช่สิ่งที่เขียนไว้ในกระดาษเท่านั้น แต่จะต้องอยู่ในทุกอณูของความคิด ทบทวนแล้วทบทวนอีก ศึกษาข้อมูลเพื่อตอกย้ำความตั้งใจจนมั่นใจว่า นั่นคือความมุ่งหมายที่คุณต้องการไปให้ถึงอย่างแท้จริง

2.  มีเพื่อนร่วมงานที่เข้ากันได้ (Mastermind Alliance)
          ข้อนี้เป็นเรื่องของความร่วมมือของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปซึ่งทำงานร่วมกันอย่างเข้าขาเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่มีร่วมกัน ด้วยความร่วมมือดังกล่าว คุณจะสามารถใช้ประสบการณ์ การฝึกฝน และความรู้ของสมาชิกทุกคนได้เหมือนกับเป็นของคุณเอง คุณค่าที่ได้จากความร่วมมือของคนที่มีหัวใจอย่างเดียวกัน เป็นเรื่องที่สร้างคุณประโยชน์อย่างชัดแจ้งโดยไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรอีก กลุ่มของสมองที่มาร่วมกันด้วยจิตวิญญาณที่สอดประสานสัมพันธ์จะให้แนวคิดในทำนอง “สองหัวดีกว่าหัวเดียว” เปรียบเหมือนการต่อแบตเตอร์รี่หลายอันเข้าด้วยกันย่อมให้พลังมากกว่าแบตเตอร์รี่เพียงอันเดียว คุณจำเป็นต้องรู้ว่าควรเลือกใครมาเป็นผู้ร่วมงานเพื่อให้เกิดความร่วมมือและทักษะที่ผสานสอดคล้องกัน ไม่ใช่คอยจะขัดกันไปเสียทุกเรื่อง

3.  ศรัทธาในงานที่ทำ (Applied Faith)
          ศรัทธา คือสภาวะทางจิตใจที่มีต่อเป้าหมาย, ความปรารถนา, และแผนงาน เป็นความมุ่งมั่นจะทำให้เกิดผลบางอย่างที่เป็นรูปธรรม เป็นความเชื่อและความคิดเชิงบวกที่พร้อมจะฝ่าฟันอุปสรรคปัญหาทุกอย่างจนกว่าจะประสบผลสำเร็จ สิ่งที่ตรงข้ามกับศรัทธาคือความกลัวซึ่งจะพาคุณหันเหไปตามจิตที่ปรุงแต่ง ศรัทธาไม่ใช่สภาวะจิตที่เป็นตัวพาคุณไปยังที่ๆ ต้องการ แต่เป็นความเชื่อมั่นที่ไปพร้อมกับคุณเมื่อคุณได้ใคร่ครวญและตัดสินใจแล้วว่าจะไปในทิศทางใด การบุ่มบ่ามที่จะทำให้ได้ โดยขาดการพิจารณาให้รอบคอบ จึงไม่ใช่ความศรัทธา แต่เป็นความดื้อรั้น มุทะลุ และไร้สติ

4.  พยายามมากขึ้นอีกนิด (Going the Extra Mile)
          ความพยายาม กับผลตอบแทน เป็นสิ่งที่ไปควบคู่กัน เมื่อคุณทำมากขึ้นกว่าที่ทำอยู่ตามปกติ คุณก็จะยิ่งได้รับผลมากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งผู้ร่วมงานใช้ความพยายามมากขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมาย ก็จะยิ่งทำให้งานเสร็จได้เร็วและดีขึ้น ผลตอบแทนที่เป็นรางวัลให้กับความพยายาม ความคิด และการปรึกษาหารือ ช่วยให้คุณและทีมงานเห็นคุณค่าของความพยายามและความร่วมมือ แต่ทั้งนี้ก็อยู่ในเงื่อนไขที่ว่า ทิศทางและการกระทำนั้นได้ผ่านการพิจารณาวางแผนกันมาอย่างรอบคอบแล้วว่าถูกต้อง เปรียบได้กับการขับรถไปในทิศทางที่ถูกต้อง ยิ่งขับเร็วด้วยความระมัดระวังก็จะยิ่งถึงจุดหมายได้เร็วขึ้น แต่หากขับผิดทิศทาง ยิ่งขับเร็วก็จะยิ่งห่างไกลจากเป้าหมาย

5.  มีบุคลิกที่น่าทำงานด้วย (Pleasing Personality)
          บุคลิกภาพเป็นผลรวมของสภาพทางจิตใจ อุปนิสัย และสรีระร่างกายที่ทำให้บุคคลหนึ่งแตกต่างไปจากบุคคลอื่น บุคลิกภาพซึ่งเป็นปัจจัยกำหนดว่าใครจะเป็นที่รักหรือที่ชัง ได้แก่ ทัศนคติ มารยาท และอารมณ์ที่แสดงออกมา บุคลิกภาพจึงเป็นสินทรัพย์ที่มีค่ามากที่สุดเพราะครอบคลุมทั้งร่างการและจิตใจของบุคคล ภารกิจทั้งหลายสามารถทำให้สำเร็จได้ง่ายขึ้นเมื่อได้ทำงานกับคนที่มีบุคลิกภาพที่น่าคบหา และรู้สึกสบายใจที่ได้ร่วมงาน ตามความเห็นของ Napoleon Hill มีบุคลิกลักษณะ 25 อย่างที่คุณควรใช้เวลาแก้ไขหรือปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นซึ่งเป็นรายละเอียดที่ขอไม่นำมากล่าวในที่นี้

6.  ไม่ท้อถอย (Personal Initiative)
          การไม่ท้อถอยหรือไม่ยอมแพ้ต่อปัญหาอุปสรรค เป็นพลังที่ผลักดันให้บุคคลสานต่อสิ่งที่เริ่มไว้จนสำเร็จ การเริ่มปฏิบัติตามแผนซึ่งอาจจะยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ในรายละเอียด ยังดีกว่าการผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ จนไม่ได้ทำหรือเริ่มต้นอะไรเลย ความไม่ท้อถอยในภารกิจที่กระทำเป็นสาเหตุหนึ่งของพลวัตรกลุ่มซึ่งทุกคนในทีมตระหนักในบทบาทภาระหน้าที่และความรับผิดชอบ ลงมือปฏิบัติโดยไม่ปล่อยวางหรือ ผัดวันประกันพรุ่ง ความไม่ท้อถอยเป็นความรู้สึกท้าทายตนเองให้พยายามทำภารกิจที่มุ่งหวังไปอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะบรรลุผลสำเร็จ

7.  คิดบวก (Positive Mental Attitude)
          ทัศนคติเชิงบวก เป็นทัศนคติที่ควรมีอยู่ในทุกสถานการณ์ ถ้าคิดว่าสิ่งนั้นสามารถทำให้สำเร็จได้ ความคิดนั้นจะเป็นตัวผลักดันให้เกิดเป็นกำลังใจปฏิบัติงานจนเกิดผลสำเร็จ แต่ถ้าคิดว่าทำอย่างไรก็ไม่สำเร็จ โอกาสสำเร็จก็แทบจะไม่มี ความคิดเชิงบวกจึงเป็นหลักความสำเร็จที่มีความสำคัญมากที่สุด หากไม่มีสิ่งนี้ หลักอื่นๆ อีก 16 ประการก็แทบจะไม่มีความหมาย ไม่มีใครมาช่วยคิดแทนคุณได้ อย่างมากที่สุดก็คือปลุกปลอบใจให้คุณคิด แต่จะคิดได้หรือไม่อยู่ที่ตัวคุณเอง ความคิดบวกจะช่วยให้คุณมองเห็นโอกาสความสำเร็จ มีความมั่นใจในสิ่งที่จะทำและเติมพลังให้ในทุกสถานการณ์ ในขณะที่ความคิดลบ นอกจากจะปิดกั้นการแสวงหาโอกาสแล้ว ยังทำให้คุณปฏิเสธโอกาสที่มาถึงคุณอีกด้วย

8.  กระตือรือร้นที่จะทำให้สำเร็จ (Enthusiasm)
          ความกระตือรือร้น คือความมีศรัทธาในการกระทำ เป็นความปรารถนาที่รุมเร้าให้อยากทำสิ่งนั้นๆ ให้ประสบความสำเร็จ เหมือนน้ำมันที่ฉีดเข้าไปในห้องเครื่องยนต์ ความกระตือรือร้นเป็นสภาวะทางจิตที่กระตุ้นให้เกิดการกระทำ มีพลังมากกว่าการใช้เหตุผล หรือวาทะกรรมใดๆ มันสามารถส่งต่อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้เหมือนโรคระบาด ถ้าสมาชิกทีมงานคนหนึ่งมีความกระตือรือร้นที่จะทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วง การแสดงออกเช่นนั้นจะมีอิทธิพลอย่างมากต่อผู้ร่วมทีมคนอื่น ทำให้เขาเหล่านั้นไม่สามารถเอ้อระเหยต่อไปได้

9.  ควบคุมความคิดตนเอง (Self-Discipline)
          การควบคุมความคิดเป็นการรักษาสมดุลระหว่างอารมณ์กับเหตุผล เป็นกระบวนการที่ผูกรวม การควบคุมจิตใจ ความไม่ท้อถอย ความคิดบวก และความกระตือรือร้นที่จะทำภารกิจให้สำเร็จ เข้าด้วยกัน ทำให้คุณคิดก่อนที่จะทำ ทั้งอารมณ์และการใช้เหตุผล เป็นจิตใต้สำนึกที่แทรกซึมอยู่ในทุกส่วนของจิตใจ ดังนั้นหากคุณไม่สร้างวินัยในการควบคุมจิตใต้สำนึกของตนเอง คุณก็อาจแสดงพฤติกรรมที่ไม่สมควรออกมาจนถูกผู้อื่นตำหนิหรือลงโทษ คุณจะตกอยู่ในอันตรายเหมือนรถที่ลงจากเขาโดยไม่มีเบรกหรือพวงมาลัยรถ ดังนั้น ก่อนจะควบคุมความต้องการและเป้าหมายที่ต้องการ คุณต้องควบคุมความคิดของคุณให้ได้เสียก่อนเพราะคุณเป็นเจ้าของทัศนคติ ความคิด และอารมณ์ การกระทำใดๆ, การสื่อสารสิ่งที่คิดออกไป และควบคุมความคิดของตนให้มีความแน่วแน่ชัดเจน ไม่กระเพื่อมไปตามสิ่งล่อใจหรืออุปาทาน ทำให้คุณมีการตัดสินใจที่ถูกต้อง สามารถจัดลำดับความสำคัญในการกระทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้

10.  แน่วแน่ที่จะทำให้สำเร็จ (Accurate Thinking)
          หลักข้อนี้คล้ายกับหลักการมีวินัยในการควบคุมความคิดของตนเอง (ข้อ 9) เพราะเกี่ยวกับการควบคุมจิตใจให้แน่วแน่อยู่กับเป้าหมาย ตัดความคิดอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นซึ่งเข้ามารบกวนจิตใจ Napoleon Hill เรียกสิ่งนี้ว่าพลังความคิด ดังคำกล่าวที่ว่า คิดอะไร ก็เป็นอย่างนั้น (What you think, so you will become)

11.  จัดลำดับความสำคัญของการกระทำ (Controlled Attention)
          เป็นการจัดลำดับความสำคัญของเวลา กำลัง และความคิดที่จะให้สำเร็จตามเป้าหมาย เป็นขั้นสูงสุดของการควบคุมความคิดของตนเอง (หลักข้อ 9) ให้รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญมากที่สุดสำหรับคุณ และจะจัดลำดับการกระทำก่อนหลังอย่างไรจึงจะไม่เปะปะสับสน

12.  ทำด้วยจิตวิญญาณของทีม (Teamwork)
          คำว่า TEAM เป็นคำต้นของคำว่า Together, Everyone, Accomplishes, More ซึ่งสอดคล้องกับผลการวิจัยด้วยการทดลองทางวิทยาศาสตร์ซึ่งสรุปได้ว่า บุคคลที่ร่วมกันทำงานด้วยวัตถุประสงค์อย่างเดียวกัน จะได้ผลสำเร็จดีกว่าการทำเพียงลำพังหรือต่างคนต่างทำ การทำงานเป็นทีม เป็นความร่วมมือที่เกิดจากความพร้อมใจ ยินดีที่จะเข้าร่วมทำอย่างเป็นอิสระ ไม่ใช่เพราะถูกบังคับให้ต้องทำ เป็นคุณลักษณะที่ทำให้ทีมงาน (teamwork) ต่างจากการที่มีคนหลายคนมาทำงานด้วยกัน (group work) เมื่อใดที่ธุรกิจมีทีมงานที่ทำด้วยจิตวิญญาณของการทำงานเป็นทีม ความสำเร็จย่อมเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน

13.  ใช้ความผิดพลาดและล้มเหลวให้เป็นประโยชน์ (Adversity and Defeat)
          ความสำเร็จแต่ละครั้งมักมีส่วนเกี่ยวข้องกับความผิดพลาดล้มเหลวที่บุคคลได้ประสบมาและนำมันมาใช้ให้เป็นประโยชน์ หลายคนเรียกความล้มเหลวว่าเป็นความพ่ายแพ้ชั่วคราวที่อาจส่งผลต่อความสำเร็จในอนาคต ทุกคนล้วนเคยผิดพลาด มันอาจเป็นขั้นให้คุณก้าวขึ้นไป หรือเป็นกำแพงขวางกั้นไม่ให้ไปต่อ ก็ขึ้นอยู่กับทัศนคติที่คุณมีต่อมัน ขอให้คิดอยู่เสมอว่าความล้มเหลวหรือความเจ็บปวดเป็นธรรมชาติที่สิ่งมีชีวิตทั้งหลายต้องเผชิญ คุณจะยังไม่ล้มเหลวจนกว่าคุณจะยอมรับมันไว้เป็นการถาวรและไม่พยายามที่จะแก้ไข

14.  มีวิสัยทัศน์สร้างสรรค์ (Creative Vision)
          คุณสามารถสร้างและพัฒนาวิสัยทัศน์ได้ด้วยการใช้จินตนาการอย่างเป็นอิสระ ไม่ยึดติดกับความกลัว มันไม่ใช่คุณสมบัติอัศจรรย์ที่บุคคลได้รับมาโดยกำเนิด จินตนาการเกิดจากจิตใต้สำนึกที่คุณนำประสบการณ์และความเป็นเหตุเป็นผลมาสังเคราะห์ให้สอดรับกับความมุ่งหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง จินตนาการเป็นเครื่องมือที่วิสัยทัศน์ใช้ในการสร้างกรอบการดำเนินงานตั้งแต่เป้าหมาย แผนงาน ไปจนถึงการปฏิบัติ บุคคลจึงไม่สามารถประสบความสำเร็จด้วยจินตนาการเพียงอย่างเดียว เพราะจินตนาการจะอ่อนแรงไปหากปราศจากการกระทำ ความสำเร็จจะเกิดขึ้นต่อเมื่อบุคคลนำจินตนาการนั้นมาสร้างให้เป็นวิสัยทัศน์ และดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องเหมาะสมให้สำเร็จตามจินตนาการนั้นเท่านั้น

15.  มีสุขภาพที่ดี (Health)
          สุขภาพที่ดีเริ่มจากความตระหนักในความสำคัญของมัน แม้จะมีคำกล่าวว่า “จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว” แต่การจะมีจิตหรือทัศนคติที่ดีได้ ก็ต้องมีสุขภาพร่างกายที่ดีเช่นกัน สุขภาพกายและสุขภาพจิตจึงเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อกันอย่างไม่มีใครสำคัญมากกว่ากัน ความกลัวและความวิตกกังวล สามารถทำให้คุณมีสุขภาพร่างกายที่ทรุดโทรมลง ในทางกลับกัน ร่างกายที่มีโรครุมเร้าก็ทำให้เกิดความกลัวและวิตกกังวล คุณจะไม่มีสมาธิในการปฏิบัติงาน เกิดความท้อถอย สมองตื้อ หากสุขภาพกายและจิตใจของคุณไม่พร้อมที่จะสู้ต่อ

          สุขภาพเป็นตัวประสานและส่งเสริมคุณให้สามารถใช้หลักความสำเร็จข้ออื่นๆ ได้ทั้งหมด การทานอาหารที่มีประโยชน์และหมั่นออกกำลังสมองด้วยการคิดเรื่องที่ท้าทายต่างๆ โดยไม่ไปเครียดอยู่กับมัน จะช่วยให้คุณพร้อมที่จะนำหลักความสำเร็จข้ออื่นๆ มาใช้ให้ประสบความสำเร็จได้

16.  วางแผนการใช้เงินและเวลา (Budgeting Time and Money)
          เงินและเวลาคือทรัพยากรที่มีคุณค่า ทุกคนที่ประสบความสำเร็จล้วนต้องใช้ทรัพยากรสองสิ่งนี้ ไม่อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือไม่ก็ทั้งสองอย่าง เคล็ดลับในการทำงานให้สำเร็จก็คือ ทำมันเสียตั้งแต่ตอนนี้ (DO IT NOW) เวลาเป็นสิ่งที่มีค่ามากเกินกว่าที่จะเสียมันไปเปล่าๆ ความผิดพลาดอื่นๆ ยังพอแก้ไขได้ แต่ความผิดพลาดเรื่องการใช้เวลา ไม่สามารถแก้ไขได้ มันไปแล้ว ไปเลย คุณจึงควรวางแผนการใช้เงินและเวลาในชีวิตและการทำงาน ยอมสละเวลาสักนิดในการวางแผนเพื่อให้ทุกนาทีได้ใช้อย่างมีคุณค่า

17.  มีนิสัยทำสิ่งที่ถูกต้อง (Habits)
          การสร้างนิสัยในการทำสิ่งที่ดีๆ จะช่วยให้คุณไม่ต้องพบกับเรื่องที่ต้องกังวล มีความสุขในจิตใจ และไม่สูญเงินทองไปโดยเปล่าประโยชน์ การเปลี่ยนนิสัยอย่างหนึ่ง คุณต้องสร้างนิสัยอีกอย่างหนึ่งขึ้นมาแทน มิเช่นนั้น การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นแต่เพียงชั่วคราว ทั้งความสำเร็จและล้มเหลวในทุกสิ่งล้วนเป็นผลมาจากนิสัยที่คุณได้สร้างขึ้นมาทั้งสิ้น ขอให้จำคำกล่าวทางพุทธศาสนาที่ว่า ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ คุณไม่สามารถเปลี่ยนผลที่เกิดขึ้นได้หากคุณไม่เปลี่ยนที่เหตุของมัน สร้างนิสัยที่เป็นเหตุของสิ่งที่ต้องการ แล้วคุณจะทำมันได้อย่างเป็นธรรมชาติเพราะมันเป็นนิสัยของคุณ

          หลักความสำเร็จเหล่านี้ เป็นการประมวลมาจากการสัมภาษณ์ผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตจริง เมื่อมันเป็นประสบการณ์ที่นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์กับบุคคลเหล่านั้นได้ มันก็นำมาใช้กับคุณได้เช่นกัน เป็นพลังชีวิตที่ไม่มีคำว่าล้าสมัยแม้จะเป็นงานวิจัยที่ทำเมื่อร้อยปีที่แล้วก็ตาม

          บทความที่เกี่ยวข้องซึ่งขอแนะนำให้อ่านประกอบ


---------------------------------



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น